มะเร็งเต้านม หนึ่งในโรคที่ผู้หญิงทั้งโลก รวมทั้งในไทย พบเจออยู่หลายครั้ง !!

[www.SeoNo1.co.th]

 รักษามะเร็งเต้านม เป็นหนึ่งในโรคที่ผู้หญิงทั่วโลก รวมทั้งในไทย พบเจออยู่บ่อยมาก และก็ยังคงเป็นประเด็นสำคัญทั้งด้านสาธารณสุข การดูแลและรักษา รวมทั้งการดูแลคุณภาพชีวิตของคนไข้ ตัวแนวทางการรักษาโรคโรคมะเร็งเต้านมในปี 2568 ได้มีการปรับปรุงขึ้นอย่างสม่ำเสมอ ทั้งยังในเรื่องของเทคโนโลยีทางด้านการแพทย์ หนทางรักษาคนเจ็บเฉพาะตัว (personalized medicine) และการดูแลร่วมของหลายๆสหสาขาวิชาชีพ วิถีทางพวกนี้มุ่งหวังให้ไม่เพียงแค่ "หายจากโรค" แต่ว่ายังลดการกลับเป็นซ้ำ ปรับปรุงแก้ไขประสิทธิภาพการดูแลและรักษา และนึกถึงผลกระทบที่มีต่อร่างกายและจิตใจของผู้ป่วยด้วย

 

บทความนี้จะพาไปตรวจแนวทางการรักษาโรคโรคมะเร็งเต้านมที่ล้ำยุคในปี 2568 — ตั้งแต่การวิเคราะห์จำแนกแยกแยะชนิดย่อย (subtype) การเลือกแนวทางผ่าตัดหรือรักษาเสริม เคล็ดวิธีใหม่ๆอย่างฉายรังสีภายในห้องผ่าตัด (IORT) การใช้ยาเคมีบำบัดรักษา ยาต้านทานฮอร์โมน ยามุ่งเป้า รวมทั้งภูมิคุ้มกันบรรเทา รวมทั้งการดูแลคุณภาพชีวิตหลังการรักษา เพื่อให้คนอ่านเข้าใจหนทางต่างๆได้อย่างเป็นธรรมชาติ เข้าใจง่าย และก็สามารถนำไปประยุกต์หรือมีความเข้าใจเพื่อการผลักดันและส่งเสริมผู้ที่เกี่ยวข้องได้

การวิเคราะห์รวมทั้งแยกเป็นชนิดและประเภทจำพวกของโรคมะเร็ง (Subtype)

ก่อนการเลือกวิถีทางรักษาอะไรก็แล้วแต่จำเป็นที่จะต้องตรวจชิ้นเนื้อโรคมะเร็ง และทำการย้อมหรือทดลองทางห้องทดลองเพื่อตรวจตัวรับฮอร์โมนเอสโตรเจน (ER) ตัวรับโปรเจสเตอโรน (PR) โปรตีน HER2 แล้วก็ตัวชี้วัดการเติบโตของเซลล์ดังเช่นว่า Ki‑67 ด้วยเหตุว่าแต่ละจำพวกมีความประพฤติโรคและก็การโต้ตอบต่อการดูแลและรักษาที่ไม่เหมือนกัน เป็นต้นว่า

- Luminal A — มักจะมีตัวรับฮอร์โมน ER/PR เป็นบวก, HER2 เป็นลบ, และ Ki-67 ต่ำ
- Luminal B — ER/PR เป็นบวก แต่ว่า Ki-67 สูง หรือ HER2 อาจเป็นบวก
- HER2‑Positive — ตัวรับ HER2 เป็นบวก ซึ่งจึงควรใช้ยาที่มุ่งเป้า HER2 ร่วมด้วย
- Triple‑Negative (TNBC) — ไม่มีตัวรับ ER, PR หรือ HER2 ซึ่งมักสนองตอบต่อยาเคมีบรรเทาแล้วก็ภูมิคุ้มกันมากยิ่งกว่า

จุดสำคัญของ subtype อยู่ที่การเลือกขั้นตอนการรักษาที่เหมาะสม ดังเช่น หากเป็น Luminal จะใช้ยาต้านทานฮอร์โมนมีบทบาทมากมาย ถ้าหากเป็น HER2+ จะใช้ยามุ่งเป้า และหากเป็น Triple‑Negative บางทีอาจใช้เคมีบำบัดหรือภูมิคุ้มกันบำบัด

✨ การผ่าตัดแบบใหม่ที่ไม่ใช่แค่การตัด: รักษาเต้านมได้ ไม่จำเป็นต้องเศร้าใจ

แต่ก่อนเวลาได้ยินว่าจำต้อง "ผ่าตัดเต้านม" ผู้คนจำนวนมากมักเข้าใจว่าจำเป็นต้องตัดเต้านมอีกทั้งข้างออกเสมอ ซึ่งส่งผลให้เกิดความกลัวและก็เสียความมั่นใจและความเชื่อมั่นในตัวเองไปมากมาย แม้กระนั้นในยุคนี้ทางแปรไปมาก หมอจะบากบั่นรักษาเต้านมไว้ให้ได้มากที่สุด โดยดูว่าขนาดก้อนโรคมะเร็งอยู่ตรงไหน ใหญ่เพียงใด มีการกระจายหรือยัง หากอยู่ในตำแหน่งซึ่งสามารถตัดเฉพาะก้อนออกได้ ก็จะเลือกใช้แนวทางลักษณะนี้ก่อน

วิธีใหม่ๆสำหรับการผ่าตัด ตัวอย่างเช่น การผ่าตัดแบบแผลเล็ก แอบซ่อนรอยแผลไว้ด้านข้างหรือใต้ราวนม การผ่าตัดร่วมกับศัลยกรรมตกแต่งในทันที ทำให้คนป่วยหลังผ่าตัดยังคงรู้สึกเชื่อมั่นได้ดังเดิม  รักษามะเร็งเต้านม ไม่จำเป็นต้องคอยจนถึงรักษาหายแล้วค่อยทำศัลยกรรมเสริมในภายหลัง

นอกเหนือจากนั้นยังมีการประเมินต่อมน้ำเหลืองที่รักแร้ว่ามีการกระจัดกระจายหรือเปล่า โดยใช้วิธี Sentinel Node Biopsy ซึ่งช่วยลดจังหวะเกิดอาการแขนบวมในคราวหลัง เป็นอีกหนึ่งหนทางที่ช่วยให้การรักษาไม่ทิ้งรอยให้ร่างกายและจิตใจมากเกินความจำเป็น



✨ เปล่งแสงแบบใหม่ IORT เป็นอย่างไร เพราะอะไรถึง "ยิงแสง" ตั้งแต่ยังอยู่ในห้องผ่าตัด

ในสมัยก่อน หลังผ่าตัดเต้านมเสร็จแล้ว ผู้เจ็บป่วยจำเป็นจะต้องกลับมาฉายแสงอีกหลายครั้งในตอนยาวนานหลายสัปดาห์ บางคนก็ตรากตรำกับการเดินทาง หรือมีผลใกล้กันทางผิวหนังจากการเปล่งแสงแบบเดิมๆแต่ในปี 2568 นี้ มีเทคโนโลยีที่เรียกว่า IORT (Intraoperative Radiation Therapy) ซึ่งเป็นการฉายรังสีให้เสร็จในระหว่างการผ่าตัดเลย

แพทย์จะนำอุปกรณ์เฉพาะเข้าไปในรอบๆที่ตัดก้อนมะเร็งออก แล้วฉายรังสีจุดนั้นทันที ก่อนที่จะเย็บแผลปิด ซึ่งช่วยลดการเสี่ยงที่เซลล์มะเร็งที่บางทีอาจหลงเหลือจะกลับมาเติบโตอีกครั้ง แล้วก็ยังลดโอกาสต้องฉายแสงซ้ำข้างหลังผ่าตัดอีกด้วย

IORT เหมาะกับผู้ป่วยบางกรุ๊ป ดังเช่น โรคมะเร็งในระยะเริ่มต้น ขนาดเล็ก ไม่มีการกระจายไปต่อมน้ำเหลือง รวมทั้งต้องเข้าขั้นที่แน่นอนที่หมอจะประเมิน ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้คนป่วยไม่ต้องมารับการฉายรังสีหลายหน แล้วก็ยังช่วยทำให้จบการดูแลรักษาเร็วขึ้นอีกด้วย

✨ เคมีบำบัดกับฮอร์โมนบำบัดในปี 2568: ไม่ใช่แค่ยา แม้กระนั้นเป็นศาสตร์เฉพาะบุคคล

คนไม่ใช่น้อยกลัวเคมีบำบัด ด้วยเหตุว่าภาพจำของผมหล่น คลื่นไส้ อ่อนล้า แม้กระนั้นที่จริงแล้วเคมีบำบัดรักษาในยุคสมัยใหม่ มิได้ใช้กับทุกคน และไม่ได้ยิ่งนักเท่าที่เคย ยาเคมีบำบัดรักษา  มะเร็งเต้านม  ในปี 2568 ถูกวางแบบให้เลือกใช้เฉพาะในกลุ่มที่จำเป็นต้อง และยังสามารถตรวจยีนหรือระดับความเสี่ยงเพื่อประเมินว่าคนไข้คนนี้จำเป็นต้องใช้เคมีบำบัดหรือเปล่า

ในรายที่ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้เคมีบำบัด แพทย์อาจเลือกให้ ยาต้านทานฮอร์โมน แทน ซึ่งเหมาะสมกับกลุ่มที่มีตัวรับฮอร์โมน อย่างเช่น ER หรือ PR บวก โดยยาจะปฏิบัติหน้าที่ยั้งการกระตุ้นของฮอร์โมนภายในร่างกายที่อาจก่อให้เซลล์ของมะเร็งเติบโต ยาจำพวกนี้จำต้องรับประทานตลอดนาน 5‑10 ปี สุดแท้แต่กลยุทธ์รักษา

ปัจจุบันนี้ยังมีการใช้แบบร่วม อาทิเช่น เคมีบรรเทาก่อนผ่าตัดเพื่อลดขนาดก้อน (neoadjuvant therapy) แล้วพอหลังจากนั้นก็ค่อยผ่าตัดและก็ตามด้วยยาต้านทานฮอร์โมนอีกครั้ง เพื่อให้การดูแลรักษาครอบคลุมมากที่สุด

✨ ยามุ่งเป้าและก็ภูมิต้านทานบรรเทา: นักฆ่าโรคมะเร็งที่เลือกจุดหมายได้ตรงจุด

เรากำลังอยู่ในสมัยที่การดูแลรักษาโรคมะเร็งไม่ได้ "ปูพรมยิง" แบบเมื่อก่อน แต่แปลงเป็นการใช้ยาเจาะจงไปที่จุดมุ่งหมาย ยามุ่งจุดหมาย (Targeted therapy) ยกตัวอย่างเช่น ยาที่ใช้กับคนป่วยกลุ่ม HER2+ จะไปจับกับโปรตีน HER2 บนผิวเซลล์ของโรคมะเร็งโดยเฉพาะ ช่วยหยุดการแบ่งตัวของเซลล์โดยไม่ทำลายเซลล์ดีภายในร่างกายเท่าไรนัก

ส่วน ภูมิต้านทานบรรเทา (Immunotherapy) เริ่มมีหน้าที่เยอะขึ้นเรื่อยๆในกรุ๊ปมะเร็งชนิด Triple Negative ที่ไม่มีฮอร์โมนใดให้ใช้ยาแบบเดิมๆได้ การใช้ยากระตุ้นภูมิต้านทานของร่างกายให้มาต่อสู้กับเซลล์ของโรคมะเร็งก็เลยเป็นหนทางที่น่าสนใจ อาทิเช่น ยากลุ่ม checkpoint inhibitor ที่เริ่มมีงานศึกษาทำการค้นคว้าและทำการวิจัยในไทยมากขึ้นเรื่อยๆ ตรวจมะเร็งเต้านม และใช้ร่วมกับเคมีบำบัดรักษาในบางครั้ง

แม้ว่ายากลุ่มนี้จะยังมีราคาสูง รวมทั้งเข้าถึงได้ยากในบางพื้นที่ แต่แนวโน้มเป็นภาครัฐและก็โรงพยาบาลหลายที่เริ่มส่งเสริมให้ยากลุ่มนี้อยู่ในสิทธิ์ประกันสุขภาพมากขึ้นเรื่อยๆ

✨ คุณภาพชีวิตข้างหลังการดูแลรักษา: หายแล้ว ดำรงชีวิตต่อให้ดียิ่งขึ้นได้จริง

การดูแลและรักษาอาจพ้นไปแล้ว แต่ชีวิตยังต้องเดินต่อ ผู้คนจำนวนมากหลังรักษาหายจากโรคมะเร็งเต้านม อาจรู้สึกยังไม่แน่ใจ ร่างกายอ่อนแอ หรือเกิดภาวะแทรกซ้อนบางสิ่ง ได้แก่ แขนบวมจากการตัดต่อมน้ำเหลือง อาการเจ็บแผล หรือปัญหาที่เกิดขึ้นทางจิตใจ เป็นต้นว่า ความหวาดกลัวว่าจะกลับมาเป็นอีก

การดูแลหลังการรักษาก็เลยสำคัญไม่แพ้ช่วงสุดที่รักษา ผู้เจ็บป่วยต้องมีกลุ่มหมอ กายภาพบำบัด และก็นักจิตวิทยาคอยช่วยดูแล บางบุคคลอาจเข้าโปรแกรมฟื้นฟูแบบครบวงจรที่มีอีกทั้งโภชนาการ การออกกำลังกายแบบส่วนตัว รวมถึงการปรับภาพลักษณ์ตัวเอง

แรงใจจากครอบครัวและก็คนที่อยู่รอบข้างสำคัญมาก บางคนบางทีอาจไม่ได้อยากคำปลอบประโลมเยอะแยะ แต่อยากได้พื้นที่ในการดำรงชีวิตอย่างธรรมดาที่สุดเท่าที่จะเป็นได้

✨ การตรวจติดตามรวมทั้งปกป้องการกลับมาเป็นซ้ำ

แม้ว่าจะหายแล้ว แต่หมอก็ยังต้องติดตามอาการผู้ป่วยสม่ำเสมอ เพราะว่ามะเร็งสามารถกลับมาได้ข้างใน 5‑10 ปี หรือแม้กระทั้งต่อไป การพิสูจน์เลือด รูปแมมโมแกรม หรือตรวจด้วยอัลตราซาวนด์เป็นระยะก็เลยสำคัญมาก

แพทย์จะกำหนดตารางตรวจตามอาการของโรคที่เคยเป็น การเสี่ยง และก็ระยะเวลาข้างหลังการดูแลและรักษา โดยส่วนใหญ่จะตรวจทุก 3‑6 เดือนในตอน 2 ปีแรก และหลังจากนั้นก็ค่อยห่างขึ้นเมื่อไม่มีสัญญาณผิดปกติ

นอกจากนั้น เพศหญิงทั่วไปที่ยังไม่เคยเป็นก็ควรเริ่มตรวจคัดกรองตามอายุที่เหมาะสม ดังเช่น 40 ปีขึ้นไป ถ้ามีประวัติครอบครัวควรหารือหมอเพื่อเริ่มเร็วกว่านั้น

✨ ความมุ่งมาดใหม่ของผู้หญิงไทย: เมืองจะต้องช่วยอะไร? พสกนิกรควรจะเริ่มตรงไหน?

ความปรารถนาของคนไข้โรคมะเร็งเต้านมในไทยหมายถึงการเข้าถึงการวินิจฉัยแล้วก็การรักษาที่เร็วที่สุดรวมทั้งตรงจุดที่สุด ซึ่งหมายถึงทั้งยังการมีวัสดุที่นำสมัย มีแพทย์ผู้ชำนาญ และยาที่จำเป็นสามารถใช้ได้จริงโดยไม่ติดเรื่องงบประมาณ

รัฐบาลควรเกื้อหนุนให้มีการกระจายเครื่องแมมโมแกรมไปสู่โรงพยาบาลในระดับอำเภอหรือจังหวัดมากเพิ่มขึ้น เพิ่มแพทย์เฉพาะทาง เกื้อหนุนงบประมาณสำหรับยาราคาสูง รวมทั้งเปิดพื้นที่ให้สตรีเข้าถึงความรู้ความเข้าใจเรื่องการตรวจเต้านมด้วยตนเองตั้งแต่ตอนวัยรุ่น

ส่วนในระดับประชากร การเริ่มต้นดูแลตนเอง ตั้งแต่การคลำเต้านมเองเดือนละครั้ง ไปตรวจสุขภาพประจำปี หรือพูดคุยเรื่องมะเร็งเต้านมกับคนที่อาศัยอยู่ภายในครอบครัวให้แปลงเป็นเรื่องปกติ ก็เป็นจุดเริ่มของการลดปริมาณคนไข้ที่เจอโรคในระยะลุกลามได้แล้ว

 

ในโลกที่เทคโนโลยีก้าวไกล โรคมะเร็งเต้านมไม่ใช่วาระสุดท้ายของความปรารถนาอีกต่อไป มันคือบทใหม่ของชีวิต ที่ถ้าเกิดพวกเรารู้จักมันดีพอเพียง เตรียมตัวให้ดี  ตรวจมะเร็งเต้านม พอเพียง และก็มีระบบสาธารณสุขที่ดีรอช่วยเหลือ พวกเราก็สามารถใช้ชีวิตต่อได้อย่างเต็มเปี่ยม มีคุณภาพ แล้วก็เชื่อมั่น

คลิ๊กอ่านรายละเอียดได้ที่ >> https://www.namarak.com/post/แนวทางการรักษาโรคมะเร็งเต้านม-2568

อย่ารอคอยให้ถึงวันที่สาย เริ่มตรวจคัด  มะเร็งเต้านม  กรองวันนี้ เพื่อพรุ่งนี้ที่ปลอดภัยกว่า ❤️